วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เที่ยวภูเก็ต: Phuket ไปไหนดี เที่ยวภูเก็ตหน้ามรสุมเดือนพฤษภา

สวัสดีค่ะ
=^w^=

หลังจากที่ก๊วนเราได้ตั๋วเครื่องบินหางแดง Air Asia ราคาโปรข้ามปี บินข้ามน้ำข้ามทะเล กรุงเทพฯ-ภูเก็ต-กรุงเทพฯ ในราคาไป-กลับเบาๆประมาณคนละ 600 บาท เราก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางต้นเดือน พ.ค. 56 ที่ผ่านมานี่เองค่ะ

แต่อยากบินถูกก็ต้องทำใจ มือจองไม่อาชีพอย่างเราๆ ก็ต้องไปช่วงที่ low season นิดนึงง..ค่ะ ฝนกำลังตกเบาๆ แถมต้องลุ้นว่ามรสุมจะเข้ารึยังด้วยอ่าาา.. ไม่เป็นไรค่ะ ก๊วนเราเป็นแมวนักบู๊ เรื่องเที่ยวไม่กลัวอยู่แล้วว (มั้ง)

เริ่มต้นออกเดินทาง เข้าที่พัก

เนื่องจากเราเลือกเดินทางกันรอบเย็น เมื่อถึงเวลาเลิกงานก็รีบออกเดินทางไปสนามบินดอนเมืองกันเลยค่ะ โดยก๊วนเราได้จัดการ Check-in มาในโทรศัพท์ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว กระเป๋าก็ไม่ต้องโหลด ดังนั้นเมื่อมาถึงสนามบินก็สามารถเดินผ่านเข้าไปในเกทได้อย่างสบายใจไม่ต้องรีบร้อน ^^

เครื่องบินออกจากกรุงเทพฯ 19.00 น. ไปถึงที่สนามบินภูเก็ตเวลา 20.20 น. ค่ะ เมื่อถึงสนามบินแล้ว ก็จัดการไปติดต่อรับรถที่ก๊วนเราขอเช่าไว้ค่ะ (รถที่เราเช่าเป็นของบริษัท AVIS ได้โปรจากงานไทยเที่ยวไทยมาค่ะ) โดยเดินออกไปจากที่รับกระเป๋าไม่ไกลก็ถึงเคาท์เตอร์ของ AVIS แล้วค่ะ รถที่ก๊วนเราจองไว้เป็นรถไซส์เล็ก กะว่าจะลองขับ Brio หรือ March ลุยเขาลุยทะเลดูซักหน่อย แต่วันนี้ทางบริษัทเค้าอัพเกรดรถให้เป็น Altis ค่าา.. ทัวร์ eco อย่างเราเลยกลายเป็นรถใหญ่ไปเลย 555


ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชม. ก็ถึงสนามบินนานาชาติภูเก็ตค่ะ


ออกจากสนามบินก็มุ่งหน้าสู่ที่พักของเรากันค่ะ เนื่องจากมาถึงค่อนข้างมืดแล้วโปรแกรมในวันนี้เลยยังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนค่ะ แต่ด้วยการที่ไม่มีใครรู้ทางก็ต้องพึ่งพี่ Google Map กันตามระเบียบ ปรากฏว่าพี่แกพาอ้อมขึ้นเขาลงเขาไป 20 กว่ากิโล แถมไปโผล่ที่ไหนก็ไม่รู้ค่ะ เฮ้ออ.. ชักจะไม่ไหวแล้วนะโปรแกรมนี้ สรุปสุดท้ายต้องโทรถามทางโรงแรมและถามทางจากชาวบ้านมาเรื่อยๆค่ะ  

ที่พักประจำทริปนี้ของก๊วนเราคือ Be My Guest Hip Hotel ค่ะ ตั้งอยู่ใกล้กับหาดสุรินทร์ ซึ่งไกลจากตัวเมืองพอสมควรทีเดียว กว่าจะถึงที่พักของเราก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มกว่า เหนื่อยสุดๆ Zzz คืนนี้ก๊วนเราขออาบน้ำเก็บของ พักผ่อนออมแรงไว้สำหรับพรุ่งนี้ก่อนนะคะ 

ด้านหน้าโรงแรมยามค่ำคืน

วันแรก : ภาคเช้า

ตื่นแต่เช้าเลยค่า ^^ เช้าแรกที่ภูเก็ต เนื่องจากที่พักของก๊วนเราไม่มีอาหารเช้าให้ (ซึ่งไม่ใช่ปัญหาสำหรับเรา อิอิ) เช้านี้ก๊วนเราเลยขอไปประเดิมมื้อแรกด้วยติ่มซำชื่อดังของที่นี่ "ร้านติ่มซำบุญรัตน์" ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต แหม... ไกลจากที่พักเราพอดูเลยนะเนี่ย
หลังจากอิ่มอร่อยกับติ่มซำเจ้าเก่าแก่กันไปแล้ว ก็ถึงเวลาไปสักการะหลวงพ่อแช่มวัดฉลองค่ะ มาถึงภูเก็ตทั้งทีเนี่ย.. ใครไม่ไปสักการะหลวงพ่อแช่มนี่เค้าว่ามาไม่ถึงภูเก็ตนะคะ ตอนแรกเราก็ถามทางกับคุณลุงเจ้าของร้าน คุณลุงแกก็ใจดีค่ะ พยายามบอกทางวาดแผนที่ให้อย่างดี สรุปว่าให้ออกถนนใหญ่แล้วดูป้ายเอาเอง 555 แบบนี้ไม่ต้องถามก็ได้นะคะ แต่ลุงแกน่ารักและตั้งใจจริงๆค่ะ ^^



ประมาณ 10.00 น. ก๊วนเราก็ขับรถมาถึงวัดฉลองหรือวัดไชยธารารามแล้วค่ะ ขับรถมาเรื่อยๆประมาณ 10 นาทีเอง มีป้ายบอกตลอดทาง รับประกันว่าไม่หลงทางแน่นอนค่ะ



หลังจากสักการะหลวงพ่อแช่มกันไปแล้ว ก๊วนเราก็ขับรถออกจากวัดฉลองไปต่อกันที่วัดพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรีหรือวัดพระใหญ่ค่ะ ตั้งอยู่บนยอดเขานาคเกิด ห่างจากวัดฉลองประมาณ 2 กิโลเมตร สามารถมองเห็นองค์พระได้จากระยะไกลเลยนะคะ องค์ใหญ่จริงๆ ซึ่งตอนที่ก๊วนเราไปนั้นวัดยังสร้างไม่เสร็จดีนะคะ แต่ก็องค์พระก็งดงาม และเป็นจุดที่สามารถขึ้นไปชมวิวทะเลภูเก็ตได้อย่างสวยงามที่นึงเลยล่ะค่ะ



อิ่มอกอิ่มใจ อิ่มบุญกันเรียบร้อยแล้ว คราวนี้ถึงตาต้องไปเติมพลังให้อิ่มท้องกันแล้วค่ะ มุ่งหน้ากันไปกินอาหารเด็ดๆกันอีกที่ ที่ร้านขนมจีนน้ำยาปูค่ะ หาพิกัดร้านแล้วไปกันเลย..



วันแรก: ภาคบ่าย

ร้านเด็ดสำหรับมื้อเที่ยงของก๊วนเราวันนี้ก็คือ ร้านขนมจีนน้ำยาปู ตั้งอยู่บริเวณอนุสาวรีย์หลัก 60 หรือเรียกกันเล่นๆว่าอนุสาวรีย์หอยค่ะ กว่าจะหาพิกัดร้านเจอก็หลงกันจนไส้กิ่วกันไปเหมือนกันค่ะ แนำนำว่าให้ search ในแผนที่หาอนุสาวรีย์ได้เลย แต่เมื่อไปถึงแล้วต้องสังเกตกันนิดนึง เพราะร้านไม่ค่อยเด่นค่ะ แถมมีต้นไม้บังอยู่หน้าร้านด้วย
อิ่มอร่อย รสเด็ดจริงๆค่ะ แถมราคาไม่แพงด้วย จากนั้นก๊วนเราก็ออกจากร้านขับรถชมบ้านชมเมืองไปเรื่อยๆค่ะ ผ่านตลาด ผ่านย่านเมืองเก่าที่ยังคงมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมแบบชิโน-โปรตุเกสที่อนุรักษ์ไว้อยู่นะคะ ขับวนไปเพลินๆ รอเวลาไปดูพระอาทิตย์ตกกัน ^^



ประมาณ 17.00 น. ก็มุ่งหน้าขึ้นแหลมพรหมเทพได้แล้วค่ะ เตรียมตัวดูพระอาทิตย์ตกกัน แนะนำว่าอย่าไปช้ามากนะคะ เพราะเดี๋ยวจะไม่มีที่จอดรถและรถติดด้วยค่ะ ก๊วนเราไปถึงก่อนเวลาก็เดินเล่นชมบรรยากาศ กินปลาหมึกย่าง เมื่อถึงเวลาก็นั่งดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ณ แหลมพรหมเทพ สถานที่ที่พระอาทิตย์ตกช้าที่สุดในประเทศไทย สวยสุดๆ ไปเลยล่ะ

หลังจากพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ก็รีบบึ่งไปที่รถเลยค่ะ เพราะถ้ามัวอ้อยอิ่งรถจะติดเอาได้ 555 ขึ้นรถแล้วไปจัดเต็มกับมื้อเย็นที่ร้านระย้า ร้านอาหารเก่าแก่ ของเมืองภูเก็ตกันต่อเลยค่า รับประกันความอร่อยท่ามกลางบรรยากาศบ้านแบบโบราณๆค่ะ


อิ่มท้องกันแล้ว ก๊วนเราแอบเห็นตลาดนัดน่าสนใจอยู่ไม่ไกลจากร้านระย้าค่ะ เดินออกมาเลยหน้าร้านไปหน่อยจะเจอตลาดนัดหรือถนนคนเดิน บรรยากาศดูดีน่าสนใจ  ซึ่งที่นี้เค้าเรียกว่า "หลาดปล่อยของ" ค่ะ แหล่งรวมของสุดชิค บรรยากาศสบายๆ แหล่งรวมวัยรุ่นของชาวภูเก็ตเค้าล่ะ
เดินเล่นกันเพลินจนสามทุ่มกว่า ดึกแล้ว.. ขับรถชมเมืองสักนิดก่อนกลับโรงแรม อาบน้ำพักผ่อนเตรียมไปเที่ยวเกาะวันพรุ่งนี้กันค่า




วันที่สอง: ตะลุยเกาะ

วันนี้ก๊วนเราต้องตื่นแต่เช้าเป็นพิเศษ เพราะต้องรีบไปรอลงเรือที่ท่าเรือรัษฎาที่อยู่ในเมืองค่ะ แน่นอนว่ามันไกลจากที่พักเราพอดูเลยแหละ 555 ดังนั้นมื้อเช้านี้ก๊วนเราเลยขอฝากท้องไว้ที่ร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอย หรือ 7-11 นั่นเอง

ก๊วนเราไปถึงที่ท่าเรือรัษฎาก่อนเวลานัดหมายเล็กน้อย เลยได้เห็นบรรยากาศของท่าเรือยามเช้าค่ะ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมารอลงเรือกันหลายเจ้าทีเดียว 

เรือของก๊วนเราออกจากท่าเวลา 08.30 น. ค่ะ โปรแกรมของกรุ๊ปเราวันนี้คือเกาะพีพีและเกาะไข่ แต่บังเอิญว่าฟ้าฝนไม่เป็นใจ ครื้มทั้งวัน คลื่นกลมก็แรงสุดๆ สรุปเลยลงเกาะไข่ไม่ได้ค่ะ เก๊าเสียใจ T^T

ถึงเกาะพีพีเลประมาณเที่ยงค่ะ เค้าปล่อยให้ลงเล่นน้ำได้และจัดให้กินข้าวเที่ยงบนเรือ ประมาณชั่วโมงนึงแล้วไปต่อค่ะ


คลื่นแรงลมแรงมากค่ะ นี่แหละน้า..หน้ามรสุม ก๊วนเราก็ดันมาตรงเป๊ะวันนี้ซะด้วยสิ อะไรว้า.. เมื่อวานยังฟ้าใสปิ้งอยู่เลย ถึงเกาะพีพีดำน้ำดูปะการังก็ไม่ค่อยแจ่ม น้ำขุ่นค่ะ คลื่นก็แรง ไม่หนุกเลยล่ะ

ประมาณบ่ายสอง เรือแวะที่เกาะพีพีดอนค่ะ เป็นเกาะขนาดใหญ่มีที่พักและร้านอาหารเพียบ ก๊วนเราไม่สนใจค่ะ ขอขึ้นไปหาที่อาบน้ำพักผ่อนตามอัธยาศัยดีกว่า คลื่นลมนี่จะแรงไปไหนคะ เมาแล้วเมาอีก เง้อออ... ประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ขึ้นเรือ เดินทางกลับไปขึ้นฝั่งที่เมืองภูเก็ตกันค่ะ อีกตั้ง 1.30 ชม. ถึงจะถึงฝั่งค่ะ



17.00 น. เรือก็เข้าเทียบท่า กลับขึ้นฝั่งโดยสวัสดิภาพค่ะ หิวก็หิว อยากไปดูสะพานสารสิน อยากไปซื้อของฝาก สรุปรถติดค่ะ ร้านของฝากในเมืองปิดหมด งั้นก็ขอไปหาอะไรกินก่อนแล้วกันค่ะ มาถึงภูเก็ตทั้งที อยากกินอาหารทะเลบ้างค่ะ ก็เลยจัดไปเลยที่ "แหลมหินซีฟู้ด"


อิ่มอร่อยกับอาหารทะเลกันจนพุงกางเรียบร้อย แม้ฟ้าจะมืดแล้วก๊วนเราก็ขอตัดสินใจขับรถไปชมวิวแถวสะพานสารสินกันดีกว่าค่ะ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงภูเก็ตเนาะ ปรากฏว่าไปถึงแล้วขับรถผิดเลนค่ะ เลยจอดเที่ยวไม่ได้ ด้วยความเหนื่อย เหนียวเหนอะหนะตัวและเพลียมากเลยปล่อยเลยตามเลยค่ะ ไปแวะซื้อของฝากกันแถวนั้นได้นิดๆหน่อยๆ ก่อนกลับที่พักก็แวะเติมน้ำมันให้เต็มถึง แล้วตรงยาวกลับที่พัก เตรียมเดินทางกลับพรุ่งนี้แต่เช้ากันค่ะ




วันที่สาม : กลับแล้วน้าภูเก็ต

ออกจากที่พักตั้งแต่ยังไม่สว่าง ไปถึงสนามบินแล้วเคาท์เตอร์ของบริษัทรถก็ยังไม่เปิดค่ะ เลยเอากุญแจไปหย่อนใส่กล่องคืนกุญแจให้เรียบร้อยไม่มีปัญหา แล้วรอบินกลับกรุงเทพเวลา 06.00 น. กันค่า ได้เวลาก็ไปขึ้นเครื่องได้เลย

เดินขึ้นเครื่องกันเลย..


07.20 น. เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพตามเวลาเป๊ะๆ ทริปนี้เหนื่อยและหนักที่สุดเท่าที่เคยไปเที่ยวมาเลยค่ะ แต่ก็ได้อะไรประทับใจกลับมามากมาย โดยเฉพาะ "ของกิน" 555 สักวันจะกลับไปกินอีกค่ะ สัญญาเลย!! แต่ต้องไม่ใช่ช่วงมรสุมแบบนี้นะ แหะๆ

ขอบคุณค่ะ
=ก๊วนแมว=

ความคิดเห็นและคะแนนในรีวิวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลของก๊วนแมวประชาชนคนธรรมดา ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารหรือการท่องเที่ยวใดๆ กรุณาอย่านำไปใช้ในการอ้างอิงใดๆนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น