วันอังคารที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Review: แหลมหินซีฟู้ด ร้านอาหารทะเลเจ้าเก่าแก่ประจำภูเก็ต

สวัสดีค่ะ
=^w^=

มาถึงภูเก็ตก็ต้องไปกินอาหารทะเลกัน จริงมั๊ยคะ วันนี้ก๊วนแมวเลยได้ไปลองลิ้มชิมรสที่ร้าน "แหลมหินซีฟู้ด" ร้านอาหารทะเลเจ้าดังเจ้าหนึ่งของที่นี่ค่ะ

ข้อมูลร้าน
ที่ตั้ง: 90/11 หมู่ 7 ถ.เทพกษัตรี ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต
โทร: 076-239357
เวลาเปิด-ปิด: 10.00-22.00 น.

ร้านแหลมหินซีฟู้ดตั้งอยู่ที่ ต.เกาะแก้ว อ.เมืองภูเก็ต ทางเข้าอยู่ที่ถนนเทพกษัตรีมุ่งหน้าเข้าเมืองภูเก็ต ซอยอยู่ซ้ายมือมีป้ายบอกตัวเบ้อเร่อค่ะ เข้าซอยไปค่อนข้างลึก ระหว่างทางมีร้านอื่นๆหลอกล่อเต็มไปหมดเลยค่ะ 555 อย่าหลงเข้าไปนะคะ เพราะร้านนี้อยู่ลึกสุดซอยค่ะ (ปัจจุบันร้านแหลมหินขยายสาขาเปิดใหม่ใกล้ๆสนามบินด้วยนะคะ)

ถึงร้านแล้วค่ะ ลึกสุดซอยเลยนะคะ


เรามาถึงร้านประมาณ 1 ทุ่ม ถึงจะมืดแล้วคนก็ยังแน่นร้านค่ะ โต๊ะแทบจะไม่ว่างเลย แต่โชคดีที่ก๊วนเราได้โต๊ะด้านนอกออกมานั่งรับลมทะเลที่ระเบียงค่ะ



การตกแต่งร้านก็เป็นแบบง่ายๆบรรยากาศสบายๆค่ะ ร้านอยู่ติดทะเลจึงทำระเบียงไม้ยื่นออกมาด้านนอก มีทั้งโซนรับลมและโซนร้านในร่มค่ะ โต๊ะอาหารก็เป็นโต๊ะไม้ซึ่งอาจจะเก่าไปบ้างตามความขลังของร้านนั่นเอง


ระเบียงรับลมทะเลกันเต็มๆ แต่มืดแล้วลมเบาๆค่ะ


เมนูมาแล้ว.. เหนื่อยและเพลียกันมาทั้งวันแบบนี้ วันนี้เลยขอจัดเต็มกับอาหารทะเลสดๆ และอาหารถิ่นน่าลอง "หอยชักตีน" ค่ะ มีคนบอกว่าหาทานได้เฉพาะที่ภูเก็ตนี่เท่านั้นนะคะ และเมนูอื่นๆที่เราสั่งกันวันนี้ก็มี ห่อหมกทะเล ปูม้าเผา และยำปลาดุกฟูค่ะ

หอยชักตีนเผา หอยชักตีนสดๆเผาจนหอม รสชาติก็น่าจะคล้ายๆกับหอยหวาน กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดของทางร้าน อร่อยไม่เบา


แหลมหินซีฟู้ด ภูเก็ต
นี่ค่ะ ชักตีนให้ดูกันเห็นๆ


ห่อหมกทะเล อร่อยเด็ดกับกุ้งหอยปูปลาในห่อหมก หอมเข้มข้นกับเครื่องแกงแต่แอบเผ็ดไปหน่อยตามสไตล์อาหารใต้ค่ะ

แหลมหินซีฟู้ด ภูเก็ต
ห่อหมกทะเล


ยำปลาดุกฟู ปลาดุกฟูทอดจนกรอบ แต่แป้งออกจะแข็งไปนิด รสชาติใช้ได้ค่ะ แต่ก๊วนแมวยังไม่ถูกใจเท่าไหร่

ปูม้าเผา ปูม้าสดๆตัวไม่ใหญ่นัก เผาจนหอม เนื้อปูค่อนข้างสดอร่อย แต่ถ้าใครชอบเผาแห้งๆต้องบอกเค้าให้เผานานๆหน่อยนะคะ



เมื่ออิ่มกันเรียบร้อยแล้ว ก่อนกลับก็ขอแอบไปดูครัวของร้านกันซักนิด ทำโชว์ให้เห็นกันไปเลยค่ะ พ่อครัวแม่ครัวทั้งหลายแทบจะไม่ได้วางมือเลย


กลับแล้วค่า


อาหารที่นี่รสชาติดีทีเดียวค่ะ แต่ไม่ถึงกับติดใจลิ้นแมวๆอย่างเรา อาหารทะเลไม่ค่อยสดเท่าที่เราหวังไว้ค่ะ หรือเราสั่งไม่ถูกเมนูก็ไม่รู้เนาะ แหะๆ แถมเผ็ดมากด้วยแหละ ใครไม่ชอบเผ็ดอย่าลืมกำชับกับพนักงานด้วยนะคะ

รสชาติอาหาร 7/10
บรรยากาศ 7/10
ความสะอาด 8/10
การบริการ 8/10
ราคา 8/10
การเดินทางและที่จอดรถ 8/10

ขอบคุณค่ะ
=ก๊วนแมว=

ความคิดเห็นและคะแนนในรีวิวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลของก๊วนแมวประชาชนคนธรรมดา ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารหรือการท่องเที่ยวใดๆ กรุณาอย่านำไปใช้ในการอ้างอิงใดๆนะคะ

วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Review: เที่ยวเกาะพีพี ลุยทะเลหน้ามรสุม

สวัสดีค่ะ
=^w^=

วันนี้ก๊วนเราก็อยู่ที่จังหวัดภูเก็ตกันแล้ว จังหวัดที่เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ดังนั้นแน่นอนว่าทริปนี้ก๊วนเราก็ต้องไปเที่ยวเกาะ ลงเรือ ดำน้ำ ให้อาหารปลากันค่ะ ซึ่งจุดหมายของเราวันนี้ก็คือ เกาะไข่นอก (เป็นเกาะขนาดเล็ก น้ำใสปิ้ง เหมาะแก่การยืนให้อาหารปลานานาชนิด) และหมู่เกาะพีพี (พีพีจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ พีพีดอนที่เป็นศูนย์กลางของเกาะ เต็มไปด้วยที่พัก ท่าเรือ ร้านอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวก และกิจกรรมสนุกๆสำหรับนักท่องเที่ยว พีพีเลเป็นเกาะสำหรับการดำน้ำ ไม่มีที่พักและร้านอาหารค่ะ แต่จะเต็มไปด้วยอ่าวที่สวยงามหลายหาด โดยเฉพาะ "อ่าวมาหยา" ที่ขึ้นชื่อนั่นเอง)

ฤดูกาลที่เหมาะสำหรับการเที่ยวทะเลไทยภาคใต้ฝั่งตะวันตก ก็คือช่วง พฤศจิกายน-เมษายน นะคะ หลังจากนั้นจะเป็นช่วงมรสุม ซึ่งก๊วนเราก็มาได้เหมาะเจาะ กลางเดือนพฤษภาคม (เพราะเห็นแก่ตั๋วถูกแท้ๆเชียว)

Phi Phi island


ก๊วนเราตัดสินใจซื้อทัวร์ไปกันค่ะ ซึ่งที่นี่ก็จะมีหลายบริษัทให้เลือกใช้ ราคาและการบริการก็ใกล้เคียงกัน ขึ้นอยู่กับชนิดของเรือและจุดหมายปลายทาง ^^ สำหรับก๊วนเราไปกับทัวร์ "เพื่อนฝูง" ค่ะ ราคาคนละ 1,100 บาท รวมอาหารกลางวันบุฟเฟ่ต์บนเรือและอุปกรณ์ดำน้ำค่ะ หากใครสะดวกก็สามารถซื้อทัวร์ไว้ล่วงหน้าได้ มีขายตั้งแต่ที่สนามบิน ริมหาด ท่าเรือ แม้กระทั่งแหล่งท่องเที่ยวใหญ่ๆค่ะ หรือจะไปหาเอาดาบหน้าเลยก็พอมีค่ะ แต่สำหรับทริปช่วงมรสุมอย่างเราๆก็ต้องลุ้นกันหน่อยล่ะค่ะว่าฟ้าฝนจะเป็นใจรึเปล่า เพราะถ้าเกิดพายุเข้า ฝนตก ออกเรือไม่ได้ เค้าก็ไม่คืนเงินนะคะ แหะๆ

โปรแกรมทัวร์(โดยประมาณ)ของเราวันนี้ค่ะ
07.00 น. ขึ้นเรือที่ท่าเรือรัษฎา
08.30 น. ออกเดินทางไปเกาะไข่นอก
09.00 น. ถึงเกาะไข่นอก เล่นน้ำ ดำน้ำตื้น ชมความสวยงามและให้อาหารแก่ฝูงปลานานาชนิด
11.00 น. เดินทางไปเกาะพีพี
12.00 น. ถึงเกาะพีพี ดำน้ำดูปะการัง พร้อมรับประทานอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์บนเรือ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
13.00 น. หาดลิง อ่าวโละซามะ อ่าวปิเละ
14.30 น. แวะพักผ่อนที่พีพีดอนตามอัธยาศัย
15.30 น. ออกเดินทางกลับภูเก็ต ถึงที่พักโดยสวัสดิภาพ
(ปล.หน้ามรสุมแบบนี้ต้องทำใจ สุดท้ายอาจไม่ได้ไปตามโปรแกรมนะคะ T^T)




มาเตรียมตัวก่อนลงเรือกันค่ะ

  • ยาแก้เมา (จำเป็นมาก) ควรกินก่อนเดินทาง 30 นาที - 1 ชม. ค่ะ
  • ชุดสำหรับเปลี่ยนเล่นน้ำ จะได้มีชุดถ่ายรูปสวยๆกันด้วย (แนะนำชุดที่ไม่หนัก ใส่สบาย อย่าทะลึ่งใส่ยีนส์ลงน้ำนะคะ 555)
  • ครีมกันแดด ปกป้องผิวของเรากันด้วยนะคะ เพราะแดดทะเลรับรองว่าแรงมากก
  • ผ้าขนหนูผืนเล็ก ไว้เช็ดหน้า ล้างน้ำทะเลเค็มๆค่ะ

อันนี้เป็นรายการเพิ่มเติม ที่ไม่จำเป็นเท่าไหร่ แต่ถ้าเอาไปแล้วจะรู้สึกดีขึ้นเยอะเลยล่ะ

  • รองเท้าแตะที่เปียกน้ำได้
  • อุปกรณ์อาบน้ำแต่งตัวชุดเล็กๆ (ตอนที่ขึ้นพีพีดอน สามารถไปหาที่อาบน้ำจืดเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ค่ะ)
  • เสบียงนิดหน่อย (บนเกาะและบนเรือแพงค่ะ)
  • ขนมปังสำหรับให้ปลา (บนเรือก็มีขายนะคะ)

07.00 น. เดินทางถึงท่าเรือ


มารอลงเรือที่ท่าเรือรัษฎา วันนี้ท้องฟ้าอากาศไม่ค่อยน่าไว้ใจค่ะ ใกล้ช่วงมรสุมแล้ว แต่ถึงฟ้าจะครึ้มๆคนก็ยังเยอะอยู่นะคะ ทำไงได้ล่ะเนาะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็จ่ายค่าทัวร์กันไปล่วงหน้ากันทั้งนั้น ซึ่งใครที่มีรถก็สามารถขับมาจอดที่ท่าเรือได้เลยค่ะ เต็มวันก็คันละ 100 บาท แต่ถ้าไม่มีรถ ส่วนใหญ่จะมีบริการรถรับ-ส่งของบริษัททัวร์ให้ค่ะ

บัตรจอดรถที่ท่าเรือค่ะ


นักท่องเที่ยวแต่ละคนมาถึงก็จะหาบริษัททัวร์ของตัวเองกันค่ะ เจอแล้วเค้าก็จะมีสติ๊กเกอร์ให้แปะไว้ที่เสื้อเพื่อกันหลงและป้องกันคนสวมรอยค่ะ

แม้ฟ้าจะครึ้มๆ แต่นักท่องเที่ยวก็มากันไม่ขาดสาย


มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ แต่จะหนักไปทางต่างชาติค่ะ


08.00 น. ลงเรือ

ได้เวลาลงเรือของเรากันแล้วค่ะ.. ก็ไปจับจองที่นั่งกันให้เรียบร้อย ขอนั่งดูวิวสบายๆในห้องแอร์ก็แล้วกัน อิอิ บนเรือจะแบ่งเป็นส่วน indoor กับ outdoor นะคะ โดยในส่วนห้องโดยสารจะแบ่งเป็น indoor 2 ชั้น และส่วน outdoor บนดาดฟ้ากับส่วนหัวและท้ายเรือค่ะ

ด้านในห้องโดยสารก็จะมี locker ให้บริการสำหรับเก็บของมีค่า (มีค่ามัดจำกุญแจตู้ละ 300 บาท นะคะ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เค้าคืนค่ามัดจำให้เราทั้งหมด เมื่อเราเอากุญแจไปคืน) ซึ่งเพื่อนร่วมทัวร์ของเราส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติค่ะ

ภายในเรือของเรา มีขนม เครื่องดื่ม และอื่นๆที่จำเป็นจำหน่ายด้วย แต่ราคาก็สูงนิดนึง
ด้านนอกตากเสื้อชูชีพไว้รอให้บริการ

แอบถ่ายเรือข้างๆ

คึกคักกันทีเดียว

หัวเรือของเราค่ะ


สำรวจรอบๆเรือกันไปแล้ว ก็ขอขึ้นไปดูส่วน Outdoor ที่ดาดฟ้าข้างบนกันค่ะ จัดเป็นที่นั่งสำหรับชมวิวทะเลได้เต็มที่ มีโต๊ะเก้าอี้พร้อมชิวแต่ไม่มีร่มบังแดดเลยค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่โซนนี้จะเป็นฝรั่งนั่งสู้แดด ส่วนพี่ไทยอย่างเราๆก็นั่งหลบแดดกันอยู่ข้างล่างตามระเบียบ


มีโต๊ะให้นั่งเล่น (ยึดติดกับเรือเลยค่ะ ป้องกันโต๊ะล้มเวลาโคลงเคลง)


วันนี้อากาศดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ก๊วนเราก็ได้แต่ภาวนาให้อากาศกลับมาปลอดโปร่งนะคะ เรือออกแล้ว แต่คลื่นยังคงแรงและสูงมาก เรือก็โคลงเคลงสุดๆค่ะ ใครกลัวเมาต้องออกไปรับลมข้างนอกเป็นระยะนะคะ อยู่ด้านในอึดอัด อากาศไม่ถ่ายเท เดี๋ยวเมาค่ะ

คลื่นแรง ลมแรงมากค่ะ

เดินออกมาต้องเกาะแน่นๆนะคะ เดี๋ยวล้ม เสื้อผ้าหน้าผม..ปลิวกระจายค่ะ
โว้วววว.. ตะโกนคุยกันยังแทบไม่ได้ยิน

เมฆยังเต็มท้องฟ้าอยู่เลย ท้องฟ้าสีฟ้าๆหายไปไหนหมดนะ!!

ไปดูท้ายเรือกันค่ะ มีอุปกรณ์ดำน้ำพร้อม


พอใกล้จะถึงเกาะไข่นอก จุดหมายแรกของเรา ทางทัวร์เค้าก็จะประกาศให้เราไปจัดการเปลี่ยนชุดให้พร้อมลุยเล่นน้ำ (บนเรือมีห้องน้ำบริการ) แนะนำให้เป็นชุดที่ทะมัดทะแมงนะคะ ใครมั่นใจก็ให้ใส่ชุดว่ายน้ำหรือบิกินีท้าแดดไปเลยค่ะ ไม่งั้นก็เสื้อยืดกางเกงขาสั้นที่ผ้าเบาๆ ไม่รุ่มร่ามหรืออึดอัดนะคะ เพราะพอลงน้ำไปแล้ว ชุดมันจะหนักขึ้นอีกเยอะเลยแหละ


09.00 น. เกาะไข่นอก

เย่..ถึงแล้วค่ะเกาะแรก เกาะไข่นอกที่แก๊งแมวเราเฝ้ารอลงไปกินปลา เอ้ย.. เลี้ยงปลา แต่ปรากฏว่าคลื่นสูงและแรงมาก ไม่สามารถจอดเรือและลงไปที่เกาะได้ค่ะ เฮ้ออ.. อกหักเลย ขนมปังที่เตรียมมาสงสัยจะเสร็จแมวแถวนี้ล่ะ T^T

ความจริงแล้ว..ที่ที่ก๊วนเราตั้งตารอก็คือที่นี่นะคะ จินตนาการไว้ว่าจะยืนให้อาหารปลากลางน้ำทะเลใสๆ ถ่ายรูปสวยๆ เฮ้ออ.. ฝันสลาย

ง่าา อยากลงไปจังเลยยย...

คลื่นแรงจนแทบไม่เห็นหาดเลยค่ะ ร่มและเก้าอี้ชายหาดโดนเก็บเรียบ

ขนมปังสำหรับปลา เป็นหมันเลย - -"


พลาดจากเกาะนี้แล้ว ก็มุ่งหน้าสู่จุดหมายต่อไปค่ะ ต้องนั่งเรือต่อไปอีกประมาณ 1 ชม. ก็จะถึงเกาะพีพีเลค่ะ คลื่นลมค่อนข้างโหดเลยล่ะ แอบกลัวเหมือนกัน ดีนะคะที่เราจัดยาแก้เมากันไปคนละเม็ดแล้ว..แต่ก็ยังมีแอบมึนๆเพลียๆบ้าง ส่วนคนที่ไม่ได้จัดยาก็ไม่อยากจะบรรยาย.. มาเต็มค่ะ รูป กลิ่น เสียง (รส กับสัมผัสขอไม่ยุ่งดีกว่าค่ะ) พนักงานบนเรือแจกถุงให้ผู้โดยสารแทบไม่หวาดไม่ไหว ไหนจะต้องแจกยา ทำความสะอาด เฮ้ออ.. บรรยากาศไม่น่าสนุกซะแล้วค่ะ นั่งด้านในก็กลิ่นไม่ดี ที่ด้านนอกก็เต็มหมดค่ะ

ขึ้นไปบนดาดฟ้าแทบจะยืนไม่อยู่เลย เก้าอี้ก็ล้มระเนระนาด คลื่นก็กระแทกแรงยังกับเล่นกระดานโต้คลื่นแน่ะ - -" ตากแดดตากลม ยืนโต้คลื่นกันบนดาดฟ้าสักพักก็ชักอยากจะกลับลงมานั่งในห้องข้างล่าง แต่พอลงมาก็แย่ค่ะ เพราะมีคนปล่อยของออกมากลิ่นไม่น่าพิศมัยเลย แง...


12.00 น. เกาะพีพีเล

มาถึงแล้วค่ะ เกาะพีพีเล ฟ้าใสแต่มีเมฆ แดดก็แรงเปรี้ยงๆ คลื่นลมก็ยังไม่ค่อยสงบ โอ้ววว.. ทะเลสีดำ!! ถึงน้ำจะไม่ใสปิ้ง แต่ยังไงๆเกาะนี้ก็ยังคงสวยงามเสมอนะคะ

เรือของคณะอื่นค่ะ


เมื่อพร้อมแล้ว พนักงานก็จัดแจงแจกชูชีพและอุปกรณ์ดำน้ำตื้น (snorkeling) ให้เราคนละชุด แล้วปล่อยให้ลงไปดำน้ำกันตามอัธยาศัย พร้อมกับจัดอาหารกลางวันแบบบุฟเฟต์ให้บนเรือค่ะ (ไม่ได้ขึ้นหาดนะคะ ถ้าอยากไปเล่นที่หาดต้องมา speed boat ค่ะ)

ลงไปดำน้ำเล่นกันคนละนิดละหน่อยค่ะ เพราะน้ำทะเลค่อนข้างมืดและขุ่นด้วย น่าจะเป็นเพราะคลื่นลมแรงนี่แหละค่ะ ปลาก็ไม่เยอะเท่าไหร่ ขนาดให้ขนมปังไปนิดเดียวยังไม่หมดเลย ปะการังก็เห็นไม่ชัด และคลื่นค่อนข้างสูง พยุงตัวในน้ำก็ลำบาก คลื่นแรงทำให้เหนื่อยง่ายด้วยค่ะ(เกี่ยวกันมั๊ยนะ) ลงไปเล่นได้ซักพักก็ขอขึ้นมาพักทานข้าวดีกว่าค่ะ ณ จุดจุดนี้ไม่มีอารมณ์อยากถ่ายรูปเท่าไหร่แล้วล่ะ

แดดร้อนเปรี้ยงๆ แต่น้องเค้าก็ไม่หวั่น

น้ำทะเลสีเข้มเชียว


อยู่ตรงนี้กันจนอิ่มแล้ว เค้าก็พาเราขึ้นเรือไปเป้าหมายต่อไปค่ะ อ่าวปิเละ อ่าวโละซามะ อ่าวมาหยา และหาดลิง สวยและดูน่าเล่นมากค่ะ แต่!!! คลื่นแรงแบบนี้ ไม่สามารถจอดเรือได้ค่ะ อันตราย!! จะวนเข้าไปเล่นที่หาดก็ไม่ได้ค่ะ เศร้าอีกแล้ว.. ได้แต่วนดูกันไป (ฉันมาทำอะไรทีนี่ T^T พยายามหลับดีกว่า จะได้ไม่เมา) 

สวยน่าเข้าไปเล่นจังเลย

ได้แต่ถ่ายรูปอยู่บนเรือไกลๆ ถึงวิวจะสวยแต่ทะเลสีน่ากลัวจังเลย


14.00 น. พีพีดอน

มาถึงที่หมายสุดท้ายค่ะ เกาะพีพีดอน... ฟ้าเริ่มไม่ค่อยใสแล้วค่ะ (จริงๆไม่อยากแวะอะไรแล้วนะคะ อยากกลับเข้าฝั่ง อาบน้ำให้สบายตัว แล้วไปเที่ยวที่อื่นดีกว่า) ยิ่งเข้าใกล้ฝั่ง ทั้งลมทั้งคลื่นก็ยิ่งแรง ตอนเอาเรือเทียบท่าเราก็ลุ้นกันน่าดู ใช้เวลาพอสมควรเลยล่ะ แถมพนักงานยังบอกอีกว่าถ้าคลื่นลมแรงมากเรือเล็กออกไม่ได้ก็ต้องฝากผู้โดยสารไปกับเรือลำอื่นที่ใหญ่กว่าค่ะ - -" น่ากลัวอีกแล้ว

ดูเรือเล็กเข้าเทียบท่า ลุ้นกันน่าดู


ตอนนี้แต่ผู้โดยสารละคนเพลียมากค่ะ ทั้งเมาคลื่น เมาแดด เมากลิ่น... ขนาดว่าพยายามนั่งหลับมาตลอดทาง แต่ก็ยังได้ยินเสียงนักท่องเที่ยวปล่อยของมาตลอดทาง เง้อ คงทรมานน่าดู ทั้งคนปล่อยและทุกๆคน พอลงจากเรือและเสียค่าขึ้นเกาะอีกคนละ 20 บาท ก๊วนเราก็แทบจะไม่สนอะไรแล้วค่ะตอนนี้ ขอลงไปรับอากาศด้านนอก แล้วหาที่อาบน้ำล้างตัวให้สดชื่นขึ้นดีกว่า

เข้าด่าน จ่ายไปคนละ 20 บาทค่ะ


ถึงอากาศจะเป็นแบบนี้ แต่นักท่องเที่ยวก็ยังคงเยอะอยู่ตลอดนะคะ
อ่าา.. ที่นี่ประเทศไทยรึเปล่านะ ไม่เห็นคนไทยเลย


ก๊วนเราพยายามเดินหาที่อาบน้ำกันอยู่สักพัก แต่ก็เจอแต่ห้องน้ำสกปรกๆ แถมจะเก็บตังค์เราแพงอีกคะ แค่อาบน้ำคนละ 50 บาท โอ้ววจอร์จ.. พนักงานก็พูดไม่ชัด ไม่ไหวๆ เลยลองเดินไปดูที่โรงแรม(ชื่ออะไรก็ไม่รู้ค่ะ แต่ขึ้นเกาะมาปุ๊ปให้เลียวซ้ายเรียบฝั่งมาเลยค่ะ) เค้ามีที่อาบน้ำให้บริการฟรีด้วย ถึงจะเป็นห้องรวม แถม Open Air แต่ก็สะอาดน่าใช้ค่ะ ^^ รู้สึกดีจริงๆที่เตรียมชุดและอุปกรณ์อาบน้ำมาด้วย

เฮ้ออ.. ได้อาบน้ำสระผม เปลี่ยนเสื้อผ้า ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยค่ะ ไปเดินเล่นบนเกาะรอเวลาขึ้นเรือกันดีกว่า

บนเกาะจะจัดสรรพื้นที่สำหรับร้านต่างๆไว้อย่างเป็นระเบียบค่ะ

มีร้านค้าต่างๆมากมาย รวมถึงงานศิลปะ ภาพวาด

ร้านอาหาร ทัวร์ นวดไทย

ร้านขายโปสการ์ด พร้อมบริการส่งไปรษณีย์ค่ะ
อุปกรณ์สำหรับเล่นน้ำ จะขาดได้ยังไงกัน

โดยรวมแล้วร้านค้าและบริการที่นี่จะเน้นเอาใจชาวต่างชาติซะส่วนใหญ่ค่ะ


โดยส่วนตัวแล้วก๊วนเราไม่ค่อยปลื้มกับที่นี่เท่าไหร่ เพราะดูวุ่นวายเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติค่ะ ค่าครองชีพก็สูง สินค้าใน 7-11 ก็แพงกว่าปกติ แต่ก็ถือว่าเป็นสวรรค์ของชาวต่างชาติเลยล่ะค่ะ อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนไทยบ้านๆอย่างก๊วนเรา 555 ที่อยากมาเที่ยวชมธรรมชาติ สวยๆ สงบๆ

ประมาณ 15.00 น. ก็กลับมาขึ้นเรือกลับไปขึ้นฝั่งที่เมืองภูเก็ตกันค่ะ ขากลับนี่ไม่ไหวแล้ว ขอจัดยาแก้เมาอีกคนละเม็ดแล้วหลับยาวๆไปเลย อีกตั้ง 1.30 ชม. ถึงจะถึงฝั่งค่ะ

ออกไปขึ้นเรือกลับกันค่ะ
เมฆลอยต่ำลงเรื่อยๆ คลื่นลมก็ยังแรงต่อไปค่ะ

ช่วงบ่าย แต่ฟ้าไม่สดใสเอาซะเลย เรือเล็กก็รอลุ้นค่ะว่าจะออกไหวรึเปล่า

ท่าเรือที่เรือของเราจอดอยู่ค่ะ


ลาแล้วค่ะ เกาะพีพีดอน


พอใกล้จะถึงก็เริ่มเห็นเกาะภูเก็ตแล้วค่ะ น่ากลัวมากยังกับโดนของอ่ะ เมฆดำทะมึนปกคลุมทั้งเกาะแถมมีฟ้าผ่าเปรี้ยงๆลงที่เกาะเป็นระยะๆด้วย เราอยู่บนเรือก็โคลงไปเคลงมาค่ะ ฝนตกลงมาปรอยๆ เฮ้ออ..เราก็ช่างเลือกวันไปได้เหมาะเจาะมากนะคะ ได้ประสบการณ์ที่ลืมไม่ลงกลับไปกันเต็มๆ ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปก็จะไม่ไหวแล้วค่ะ เศร้าา..


17.00 น. กลับถึงภูเก็ต 

เรือเทียบท่า กลับขึ้นฝั่งโดยสวัสดิภาพค่ะ เย่ๆ รอดแล้วเรา ได้ประสบการณ์ไม่รู้ลืมกันมาเต็มๆ 555 (พยายามขำกันให้ออก)

ปล.หลังจากที่เรากลับมากรุงเทพฯไม่กี่วัน เราก็เห็นข่าวในทีวีว่ามีพายุลูกใหญ่ถล่มภาคใต้ฝั่งตะวันตก ซึ่งก็รวมถึงจังหวัดภูเก็ตด้วยค่ะ และที่น่าตกใจก็คือ มีเรือท่องเที่ยวที่โดนพายุซัดล่มกลางทะเลด้วยค่ะ T^T แถมไปเกาะพีพีเหมือนเราด้วย น่ากลัวจังเลย.. ต่อไปจะไม่ไปเที่ยวเกาะช่วงหน้ามรสุมอีกแล้วค่า เข็ดจริงๆ

ขอบคุณค่ะ
=ก๊วนแมว=

ความคิดเห็นและคะแนนในรีวิวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลของก๊วนแมวประชาชนคนธรรมดา ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารหรือการท่องเที่ยวใดๆ กรุณาอย่านำไปใช้ในการอ้างอิงใดๆนะคะ