วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2556

Review: กฤษดาดอย สวนสวยบรรยากาศดี ที่น่าเที่ยวที่เชียงใหม่

สวัสดีค่ะ
=^w^=

วันนี้ก๊วนแมวพามาแวะกินข้าวในสวนสวยๆที่เชียงใหม่กันค่ะ ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณครึ่งชั่วโมง อาจจะดูว่าไกลแต่ถ้ามาถึงแล้วรับรองว่าต้องประทับใจกับบรรยากาศของที่นี่แน่นอนค่ะ ที่ "กฤษดาดอย"

ข้อมูลร้าน
ที่ตั้ง: ถ.หางดง-สะเมิง อ.หางดง จ.เชียงใหม่
โทร: 053-365231-4



กฤษดาดอยตั้งอยู่ที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ค่ะ อยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 700 เมตรจากระดับน้ำทะเล เป็นรีสอร์ทที่เคยบูมมากเมื่อก่อนนี้ค่ะ เคยเป็น Location ถ่ายละครไปแล้วก็หลายเรื่อง มีทั้งที่พัก ร้านอาหารและห้องสัมมนาครบครัน แต่ส่วนที่เป็นจุดเด่นของที่นี่ก็คือ "สวน" ค่ะ เค้าจัดและดูแลไว้สวยมากๆ พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว (ปล.เก็บค่าเข้าชมสวยด้วยนะคะ คนละ 60 บาท) ก๊วนเราก็จัดไปค่ะ เข้าชมสวนพร้อมกับแวะทานอาหารเที่ยงไปด้วยเลย

บริเวณร้านอาหารที่เราจะไปฝากท้องกันมีชื่อว่าห้อง "เฟื่องฟ้า" ค่ะ เป็นเรือนไม้ตั้งอยู่ด้านในรีสอร์ทท่ามกลางสวนดอกไม้และธารน้ำตกภายในรีสอร์ท ซึ่งช่วงเวลาที่เราไปถึงแดดก็กำลังแรงมากค่ะ ก๊วนเราเลยขอนั่งหลบแดดรออาหารกันด้านในก่อนดีกว่า ระหว่างนี้ก็ถ่ายรูปกันไปเพลินๆ 





อาหารที่เราสั่งกันวันนี้ก็เป็นเมนูทั่วๆไปค่ะ เพราะช่วงนี้เป็น low season ลูกค้าน้อย ของก็มีน้อยค่ะ (เลยไม่ได้เก็บรูปมาฝาก) กินกันจนอิ่มแล้วก็เดินออกมาชมวิวด้านนอกกันซักหน่อย ไปสู้แดดกันค่ะ 555 มีน้ำตกอยู่ในรีสอร์ทด้วยนะคะ




แม้อากาศจะร้อนและแดดจะแรง แต่สวนและดอกไม้นานาชนิดก็ยังคงสวยงามนะคะ ดอกไม้และพรรณไม้หลากสีให้บรรยากาศไม่ต่างกับอยู่ในต่างประเทศเลยล่ะ 





ค่าอาหารมื้อนี้ก๊วนเราหมดไปประมาณ 1,200 บาทต่อ 5 คน อาหารก็ถือว่าค่อนข้างแพงทีเดียว ส่วนรสชาติก็กลางๆ ไม่ค่อยติดใจกันสักเท่าไหร่ค่ะ แต่สวนสวย บรรยากาศดี เหมาะแก่การเดินชิวๆในช่วงเช้า หรือหน้าหนาวค่ะ ถ้าใครตั้งใจมาเพื่อรับประทานอาหารอย่างเดียวคงไม่คุ้ม แต่ถ้ามาเพื่อชมบรรยากาศ เข้าพักในรีสอร์ท จัดสัมมนาหรืองานแต่งงานก็น่าสนใจไม่น้อยค่า

รสชาติอาหาร 6/10
บรรยากาศ 10/10
ความสะอาด 7/10
การบริการ 7/10
ราคา 7/10
การเดินทางและที่จอดรถ 8/10 

ขอบคุณค่ะ
=ก๊วนแมว=

ความคิดเห็นและคะแนนในรีวิวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลของก๊วนแมวประชาชนคนธรรมดา ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารหรือการท่องเที่ยวใดๆ กรุณาอย่านำไปใช้ในการอ้างอิงใดๆนะคะ

Review: บ้านม่อนม่วน ร้านอาหารน่านั่งที่ม่อนแจ่ม และสัมผัสม่อนแจ่มในหน้าร้อน

สวัสดีค่ะ
=^w^=

แม้ก๊วนแมวจะมาเชียงใหม่ในช่วงหน้าร้อน อยู่ในเมืองแทบไม่ได้สัมผัสกับอากาศเย็นๆ แต่วันนี้ก๊วนแมวจะพาขึ้นดอยไปรับอากาศสดชื่นๆของเชียงใหม่กันบ้างค่ะ ตื่นแต่เช้าอากาศดี มีไอหมอกและบรรยากาศหนาวเบาๆ ฮ้า..ค่อยสมกับที่มาเชียงใหม่หน่อยเนาะ

ล้อหมุนออกจากที่พักตอนเจ็ดโมงเช้า.. วันนี้เราจะมุ่งสู่ อ.แม่ริม เพื่อไปเที่ยวที่ม่อนแจ่มกันค่ะ ม่อนแจ่มอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 40 นาที เดินทางด้วยทางหลวงหมายเลข 107 จนถึง อ.แม่ริม แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1096 เส้นแม่ริม-สะเมิง ขับตรงไปจนถึงแยกโป่งแยงแล้วเลี้ยวขวาตามป้าย "โครงการหลวงหนองหอย" ได้เลยค่ะ ซึ่งก่อนจะถึงที่หมายเราก็แวะเติมพลังทานอาหารเช้ากันที่บ้านม่อนม่วนกันซะหน่อย


บ้านม่อนม่วน



ข้อมูลร้าน (บ้านม่อนม่วน)
ที่ตั้ง: 175 หมู่ 2 ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ (ก่อนถึงม่อนแจ่มประมาณ 1.5 กิโลเมตร)
โทร: 083-3186555, 083-3186444
เวลาเปิด-ปิด: 7.00-21.00 น. (ร้านอาหาร)

บ้านม่อนม่วนเป็นรีสอร์ทสวยบรรยากาศดีอยู่ท่ามกลางภูเขา ที่มีการตกแต่งอย่างลงตัวให้เข้ากับธรรมชาติด้วยไม้และหัตถกรรมพื้นเมืองอย่างลงตัว โดยทางด้านหน้าของรีสอร์ทได้จัดเป็นร้านอาหารบรรยากาศดีเหมาะสำหรับนักเดินทางอย่างเรา อิอิ ^^ ซึ่งก๊วนแมวเพิ่งจะรู้ตอนมาถึงเหมือนกันว่าที่นี่คือที่ถ่ายทำเรื่อง "ธรณีนี่นี้ใครครอง" ค่ะ แหม... บรรยากาศดีเชียว เช้าๆอากาศเย็นสบาย โดยตัวร้านอาหารแบ่งเป็น 2 ชั้นค่ะ ได้วิวสวยกันคนละแบบ ก๊วนเราเลือกนั่งชมบรรยากาศกันที่ชั้นล่าง เพราะช่วงที่เราไปถึงนั้นด้านบนแดดกำลังแรงเลย (ค่อยขึ้นไปถ่ายรูปทีหลังก็ได้เนาะ)

วิวของชั้นล่างจะเป็นวิวธรรมชาติ มองเห็นภูเขาและสวนดอกไม้ที่ทางรีสอร์ทตกแต่งไว้ จัดด้วยโต๊ะไม้ตัวใหญ่ ชิงช้าหวายและมุมถ่ายรูปน่ารักๆเพียบในบรรยากาศเย็นๆ ไม่มีแดดยามเช้ามากวนใจ (ด้วยความหิวโหย เลยลืมเก็บภาพอาหารมาฝากเพื่อนๆไปเลย แหะๆ




ที่ชั้นล่าง มีมุมน่ารักๆให้ถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ


รายการอาหารที่เราสั่งวันนี้เป็นเมนูผักเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ได้แก่ 

ผักกาดแก้วทอดน้ำปลา ผักกาดแก้วสดกรอบผัดมาได้กลิ่นน้ำปลาหอมๆ อร่อยแป๊ปเดียวหมดจาน 555

ไข่เจียว เมนูธรรมดาๆที่กินกับอะไรก็อร่อยค่ะ แม้ไข่จะอมน้ำมันนิดๆ แต่กินตอนร้อนๆนี่อร่อยจริงๆค่ะ

สลัดผักสด ผักสดหวานกรอบสุดๆ สมแล้วที่เป็นผักบนดอย ^^ 

กินกับข้าวสวยร้อนๆ โดยรวมแล้วอร่อยดีค่ะ และปิดท้ายด้วยชาดอกไม้ที่หอมกลิ่นดอกไม้อ่อนๆด้วยค่ะ




หลังจากอิ่มท้องเราก็เดินขึ้นมาเก็บบรรยากาศด้านบนอีกซักหน่อยค่ะ ด้านบนจะเป็นส่วนของตัวร้านและห้องน้ำ มีระเบียงไม้ทอดยาวออกไป ตกแต่งด้วยเก้าอี้หวายและร่มสีสดใส เปิดรับลมและแดดอย่างเต็มที่ ทำให้มองเห็นวิวในมุมที่กว้างกว่าด้านล่างค่ะ ส่วนโซนที่พักจะเป็น Privet Zone ค่ะ ต้องเดินลงไปตามแนวเขา อนุญาตให้เข้าเฉพาะแขกที่เข้ามาพักเท่านั้นนะคะ






ซึ่งบ้านม่อนม่วนถือเป็นที่นึงที่ก๊วนแมวแนะนำนะคะสำหรับคนที่มาเที่ยวแถวนี้ ร้านสวย บรรยากาศดี อาหารอร่อย แถวเจ้าของร้านน่ารัก เป็นมิตรและบริการดีค่ะ ไว้ถ้ามีโอกาสก๊วนแมวก็อยากจะมาลองนอนพักที่นี่ท่ามกลางอากาศหนาวและม่านหมอกด้วยจริงๆ

รสชาติอาหาร 8/10
บรรยากาศ 10/10
ความสะอาด 9/10
การบริการ 10/10
ราคา 8/10
การเดินทางและที่จอดรถ 7/10


ม่อนแจ่ม


หลังจากอิ่มอร่อยเก็บบรรยากาศกันไปแล้ว ประมาณ 10.00 น. หนังท้องตึงหนังตาไม่หย่อนค่ะ ลุยกันต่อเลยที่ม่อนแจ่ม แอบลุ้นอยู่ลึกๆค่ะ ว่าขึ้นไปแล้วจะร้อนมั๊ยน้าในช่วงปลายเดือนมีนาแบบนี้ แต่แดดก็แรงได้เรื่องเลยเหมือนกันนะ ไม่เป็นไรค่ะ ไหนๆมาแล้วก็ลุยกันไปให้ถึง อยู่ใต้ฟ้าอย่ากลัวแดด อยู่ใต้แดดแต่กลัวดำ 555

ขับรถมาจากบ้านม่อนม่วนประมาณ 10-15 นาที (มีป้ายบอกตลอดทาง) เราก็มาถึงจุดหมายของเรากันแล้วว เอิ่ม.. มันไม่ค่อยเหมือนที่เราจินตนาการไว้เลยเนาะ นี่ล่ะน้ามาเที่ยวดอยตอนอากาศร้อน ไปดูกันค่ะว่าเป็นยังไง



ม่อนแจ่มตั้งอยู่บนสันเขาที่ความสูง 1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีบริเวณไม่กว้างเท่าไหร่ค่ะ อยู่ในโครงการหลวงหนองหอย ซึ่งได้จัดสวนและที่นั่งพักไว้ได้น่ารักและสวยงามทีเดียว ถ้าไม่ติดว่าแดดแร๊งแรง..ก๊วนแมวจะต้องฟินมากๆเลยล่ะค่ะ แม้แดดอาจจะแรงไปสักหน่อย แต่ลมที่พัดมาก็ยังเป็นลมหนาวอยู่นะคะ คิดซะว่ามาตอนนี้ก็ดีอย่างนะคะ คนน้อย...ถ่ายรูปสบาย อิอิ




แต่ละจุด จะจัดเป็นสวนดอกไม้ชนิดต่างๆไว้หลากสีค่ะ มันน่าลงไปนอนกลิ้งจิงๆนะ ถึงจะดูแล้งแต่ก็มีพื้นที่สีเขียวให้พอสบายตา แถมท้องฟ้าก็ใสปิ้ง ไร้เมฆมาบังแดดกันเลยทีเดียว






ประมาณ 11.00 น. เราก็ออกจากม่อนแจ่มกันค่ะ แดดแรงใช้ได้เลย ถึงจะร้อนไปหน่อยแต่ก็สนุกนะคะ (ปลายเดือนมีนาแล้วจะไม่ร้อนได้ไงเนาะ) เพราะยังไงซะบนดอยก็ยังอากาศเย็น มีลมพัดตลอด มาขึ้นดอยหน้าร้อยก็ได้ประสบการณ์ไปอีกแบบ รับรองว่าก๊วนเราจะต้องหาทางมาสัมผัสหน้าหนาวที่นี่อีกครั้งให้ได้ค่ะ

ขอบคุณค่ะ
=ก๊วนแมว=

ความคิดเห็นและคะแนนในรีวิวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลของก๊วนแมวประชาชนคนธรรมดา ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารหรือการท่องเที่ยวใดๆ กรุณาอย่านำไปใช้ในการอ้างอิงใดๆนะคะ

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556

Review: B2Black Chiang Mai - โรงแรมเท่ห์ๆ ราคาประหยัดในเชียงใหม่

สวัสดีค่ะ
=^w^=

วันนี้ก๊วนแมวพามาพักที่โรงแรมบีทู ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาโรงแรมที่พักเก๋ๆ ราคาประหยัดแค่หลักร้อยในเมืองเชียงใหม่กันค่ะ โดยแต่ละสาขาของโรงแรมก็จะมีเอกลัษณ์การตกแต่งที่ไม่ซ้ำใคร แล้ววันนี้ก๊วนเราจะเลือกพักที่สาขาไหน ไปติดตามกันเลย

โรงแรมบีทู (B2 Hotel) หรือ B2 Business&Budget Hotel เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่ราคาคุ้มค่า สไตล์โมเดิร์นบูติก ที่มีมากกว่า 20 สาขาทั้งใน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พัทยา ภูเก็ต และกรุงเทพฯ เลยนะคะ

โดยในเชียงใหม่ จัดเป็นจังหวัดที่มีโรงแรมเครือ B2 เยอะที่สุด กระจายอยู่ตามย่านต่างๆเต็มไปหมดเลยค่ะ เราเลือกกันอยู่นานว่าจะพักที่สาขาไหนดี สุดท้ายก็ตกลงใจที่นี่แหละค่ะ B2Black เพราะค่อนข้างใหม่ อาจจะไม่อยู่กลางเมืองมาก แต่เป็นทางที่สะดวกสำหรับออกนอกไปตะลุยนอกเมืองค่ะ



ข้อมูลทั่วไป
ชื่อที่พัก: B2Black
ที่ตั้ง: 149/19 ถ.เลียบคลองชลประทาน ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (ใกล้ศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่และสนามกีฬาสมโภช 700 ปี)
โทร: 053-227444
Website: www.b2hotel.com


สิ่งอำนวยความสะดวก


B2Black ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองชลประทาน ใกล้สนามกีฬาสมโภช 700 ปีค่ะ ค่อนข้างเงียบสงบเพราะอยู่นอกตัวเมือง แต่เหมาะกับคนที่มีรถส่วนตัวมากกว่านะคะ ที่นี่เป็นโรงแรมสูง 8 ชั้น ขนาด 48 ห้อง แบ่งเป็นห้องแบบ Superior, Deluxe, Luxury และ ห้อง Suite ค่ะ

คราวนี้ก๊วนเรามากันหลายคนเลยขอพักห้อง Luxury ขนาดสำหรับ 3 คนค่ะ

ขอท้าวความกันสักนิด กว่าก๊วนเราจะจองและมาลงตัวที่นี่ได้ ก็ค่อนข้างวุ่นวายนิดหน่อยค่ะ เราได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันมาเยอะเรื่องกิตติศัพท์ของพนักงานต้อนรับว่าการบริการไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่

ก๊วนเราก็ไม่แคร์ค่ะ ใจกล้าบ้าบิ่น ถูกใจตัวโรงแรมก็ต้องลองดู เราตัดสินใจโทรเข้าไปจองห้องพักกับทางโรงแรมโดยตรง เพราะไม่เคยจองผ่านเน็ตมาก่อน ปรากฏว่าโทรไปรอบแรกพนักงานไม่รู้เรื่องค่ะ บอกห้องเต็ม จองไม่ได้!! แล้วก็วางหูไปเลย เอ๊ะยังไง! ก็ในเน็ตมันว่างนี่นา.. งงค่ะ จะถามก็ไม่ทันซะแล้ว - -" ไม่เป็นไร ลองอีกสักครั้งก็ได้น่า คราวนี้เสียงพนักงานอีกคนนึงรับ บอกว่าว่างจองได้เลยค่ะ อ่าวว.. ว่างก็จองสิคะ เอาล่ะค่ะปัญหามันเริ่มมาอีกแล้ว ตอนที่ขอ e-mail ขอเบอร์ติดต่อกันนี่สิค่ะ เหมือนพูดกันไม่รู้เรื่อง ฟังไม่เข้าใจ กลายเป็นว่ามาทำเสียงหงุดหงิดๆใส่เราซะงั้น อะไรเนี่ย -"- ตัดปัญหาเลยละกัน ช้านจองเองในเน็ตก็ได้ย่ะ!! ไม่ง้อละ เพลีย... สรุปเลยจองผ่าน www.booking.com เสียค่าห้องไปคืนละ 790 บาท ซึ่งที่นี่ไม่มีบริการอาหารเช้านะคะ



วันนี้เราเข้าไปที่โรงแรมกันค่อนข้างมืดแล้ว เข้าไปถึงก็ไปแจ้งพนักงานที่ Reception พร้อมกับยื่นใบจองที่เรา print มาจากในเว็ปเรียบร้อย ก็ดูปกติดีไม่มีปัญหาอะไรค่ะ พนักงานก็เอากุญแจให้เราเอาขึ้นไปที่ห้องพักได้เลย แถมได้ user id & password สำหรับเล่น WiFi ของทางโรงแรมมาคนละ 1 ใบด้วยค่ะ



ห้องที่ก๊วนเราพักกันอยู่ที่ชั้น 5 ค่ะ ประตูห้องก็เป็นระบบ Key card บรรยากาศก็มืดสลัวๆ ตามคอนเซปต์ Black หรือเพราะเรามาดึกแล้วก็ไม่รู้ 555 แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรนะคะ การตกแต่งของที่นี่เน้นเป็นหินและปูนเปลือยค่ะ ทำให้ดูเท่ๆหรืออกแนวดิบๆเล็กน้อย คุณผู้ชายน่าจะชอบล่ะค่ะ ก๊วนเราเองก็ชอบบบ..อิอิ ไปดูบรรยากาศในห้องกันเลยดีกว่า..

เปิดประตูเข้ามาแล้วค่ะ Black จริงด้วยๆ โดยห้องนี้จะประกอบไปด้วยเตียงขนาด 5 ฟุต 1 เตียง และเตียงขนาด 3.5 ฟุต อีก 1 เตียงค่ะ มีหน้าต่างห้องเป็นกระจกบานใหญ่ เพื่อให้เห็นวิวเชียงใหม่ได้แบบเต็มๆตา (เห็นดอยสุเทพด้วยน้า) ประมาณว่านอนเปิดบ้านอยู่บนเตียงก็แทบจะเห็นวิวข้างนอกเป็นแบบ Panorama เลยทีเดียว อิอิ






มาต่อที่บริเวณโต๊ะเครื่องแป้ง อยู่ติดกับตู้เสื้อผ้าแบบปูนเปลือย พร้อมผ้าขนหนู สบู่ แชมพู และหมวกอาบน้ำ สำหรับ 3 คนพอดีเป๊ะ ส่วนทีวีและโต๊ะวางของอยู่ปลายเตียงค่ะ แถมข้างๆมีเก้าอี้ให้นอนเล่นได้ชิวๆด้วย



ในห้องมันมืดจริงๆนะคะ ไม่ได้มืดเพราะกล้องไม่ดี 555


น่าอยู่กันมั๊ยค่ะ โดยส่วนตัวแล้วเราก็ชอบการตกแต่งของที่นี่นะคะ แต่ติดอยู่ที่มันค่อนข้างมืดไปหน่อย จะแต่งหน้า อ่านหนังสือก็ทุลักทุเลกันนิดหน่อย แต่รู้มั๊ยคะส่วนไหนของห้องที่สว่างที่สุด เฉลย... "ห้องน้ำ" ค่า ไปดูกันเลย ^^

ยังไงซะที่นี่ก็ยังคงไม่ทิ้งคอนเซปต์ Black ค่ะ เริ่มด้วยประตูห้องน้ำสีดำสนิท ภายในห้องน้ำตกแต่งด้วยกระเบื้องสีดำและผนังปูนเปลือยขัดมันเน้นโทนสีเทาดำค่ะ ยกเว้นชักโครก (สงสัยหายาก^^) แม้แต่เครื่องทำน้ำอุ่นยังสีดำเลยนะคะ ช่างสรรหาจริงๆ ชักสงสัยแล้วสิว่า B2Green เค้าจะมีอ่างสีเขียวบ้างรึป่าว อิอิ






หลังจากเหนื่อยกันมาทั้งวัน ก๊วนเราก็ขอพักเอาแรงกันซะหน่อยดีกว่าค่ะ เตียงนุ่ม แอร์เย็นฉ่ำ นอนหลับสบายจนตอนเช้าไม่อยากตื่นเลยค่า.. เปิดม่านรับแดดยามเช้าในห้องสีดำ มันก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบดีนะคะ ชีวิตต้องเที่ยว!! เก็บของไป Check out กันดีกว่า สัมผัสบรรยากาศทางเดินตอนเช้าๆ มีโซฟาให้นั่งเล่นเพลินๆ หรือนั่งรอลิฟท์ด้วยนะคะ



ลงมาถึงชั้นล่างแล้วค่ะ มาดู Lobby กันบ้างดีกว่า เมื่อคืนเข้าดึกไปหน่อยเลยไม่ได้เก็บภาพมาฝาก มาดูภาพชัดๆตอนเช้าๆดีกว่านะคะ ที่ Lobby มีโซฟาจัดไว้รับรองเต็มไปหมดเลย ตกแต่งแบบเรียบง่ายดูโล่งโปร่งแต่มีสไตล์


เคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ค่ะ แต่งสวยเชียว



อีกมุมนึงของ Lobby ค่ะ ชอบไอ้ลูกกลมๆนี้จังเลย จริงๆแล้วมันคือโคมไฟนะคะ


ด้านหน้าประตูทางเข้าค่ะ


ถึงจะไม่กว้างขวางใหญ่โต แต่ก็ตกแต่งให้ดูโปร่ง เพดานสูง


หลังจากที่ Check out เรียบร้อย ก็ออกมาด้านหน้าโรงแรม ซึ่งมีลานจอดรถให้ที่ด้านหน้าโรงแรมเลย (ลานดินโรยหิน) กว้างขวางจอดรถได้เป็นสิบคัน




โดยรวมแล้วก๊วนเราค่อนข้างพอใจกับการพักที่นี่นะคะ (ถ้าไม่นับขั้นตอนการจองทางโทรศัพท์) โอกาสหน้าถ้ามาที่เชียงใหม่อีกก็ว่าจะลองไปพักที่ B2 สาขาอื่นๆดูบ้างค่ะ เพราะการตกแต่งแต่ละที่ก็มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์ น่าสนใจมิใช่น้อย แถมราคาก็พอสบายกระเป๋า และได้รูปเก๋ๆกลับไปฝากทุกคนกันด้วย

บรรยากาศ 8/10
ความสะอาด 7/10
การบริการ 6/10
ราคา 8/10
การเดินทางและที่จอดรถ 8/10

ขอบคุณค่ะ
=ก๊วนแมว=

ความคิดเห็นและคะแนนในรีวิวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลของก๊วนแมวประชาชนคนธรรมดา ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารหรือการท่องเที่ยวใดๆ กรุณาอย่านำไปใช้ในการอ้างอิงใดๆนะคะ