สวัสดีค่ะ
=^w^=
ปลายเดือน มี.ค. 56 ร้อนๆแบบนี้ ก๊วนแมวต้องไปสัมมนาที่เชียงใหม่ เลยได้โอกาสไปเที่ยวเก็บภาพบรรยากาศเมืองเชียงใหม่มาฝากทุกๆคนกันค่ะ ^^ แหม..ใครๆก็คงรู้ว่าเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันในช่วงที่อากาศหนาวๆเย็นๆ แต่คราวนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่เราจะได้ไปสัมผัสเมืองท่องเที่ยวนี้ในช่วงที่อากาศร้อนๆกันบ้างล่ะค่า (ไม่ใช่ช่วงสงกรานต์ด้วยนะ ^^) และเนื่องจากช่วงกลางวันเราต้องสัมมนากันทั้งวันค่ะ ทริปนี้ส่วนใหญ่เลยเป็นช่วงกลางคืนซะมากกว่า ไปดูกันว่า 1 วัน กับ 3 คืน เราจะไปไหนกันได้บ้าง..
ยีราฟ Night Safari |
วันแรก: ล้อหมุน กรุงเทพฯ-เชียงใหม่
เชียงใหม่เป็นจังหวัดที่ไปมาสะดวก เดินทางได้หลายทางทั้งรถยนต์ รถทัวร์ รถไฟและเครื่องบิน ก๊วนเราไปเชียงใหม่มาก็หลายรอบ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ขับรถไปค่ะ ระยะทางจากกรุงเทพฯไปเชียงใหม่ ก็ 696 กิโลเมตรถ้วน.. ขับสบายๆก็ประมาณ 7-8 ชม. ค่ะ
ออกจากกรุงเทพฯ ประมาณบ่ายโมงค่ะ ขึ้นทางด่วนไปออกอยุธยา -> สิงห์บุรี -> ชัยนาท -> อุทัยธานี -> เข้าเมืองนครสวรรค์ -> กำแพงเพชร(ช่วงนี้ถนนไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะคะ) -> ตาก -> ลำปาง(ขึ้นเขา ทางโค้งเยอะ ขับระวังๆกันนะคะ) -> ลำพูน ไปถึงเชียงใหม่ก็ประมาณสองทุ่มนิดๆ รวมระยะเวลาเดินทาง 7 ชั่วโมงพอดี ต้องยกความดีความชอบให้คนขับรถคนเก่งของเรากันนะคะ มือเดียวขับไม่เปลี่ยนเลย อิอิ
ผ่านนครสวรรค์ มีนกพิราบมาเกาะกินข้าวเปลือกบนรถบรรทุกเต็มเลยค่ะ |
ตั้งแต่เข้าเขตภาคเหนือ เราก็เห็นเค้าจุดไฟเผาป่ากันเป็นระยะๆ |
เมื่อถึงเชียงใหม่.. อันดับแรกคือมุ่งหน้าหาที่พักกันค่ะ ที่ที่เราจองไว้ก็คือ "โรงแรมเพชรงาม" เพราะเห็นว่าใกล้กับโรงแรมที่เราจะไปสัมมนากัน แถมราคาไม่แพงอีกด้วย ดังนั้นเป้าหมายของเราก็คือ ถนนช้างคลาน ใกล้ๆกับไนซ์บาร์ซ่าค่ะ ขับรถกันไป+หลงทางกันเล็กน้อยตามประสาคนไม่รู้ทาง ในที่สุดก็หากันจนเจอค่ะ แต่พอเข้าไปถึงเราก็รู้สึกว่าบรรยากาศแบบนี้มันไม่ใช่แล้วมั้งค่ะ สงสัยจะไม่เหมาะกับสาวๆอย่างเราแน่ๆ เพราะด้านหน้าเหมือนเป็นสถานบันเทิงแล้วบรรยากาศในโรงแรมก็ดูเก่าๆเงียบเหงาชอบกล เอาน่า.. ไหนๆก็มาถึงแล้วขอขึ้นไปดูบนห้องซะหน่อย 555 ขอยกเลิกการจองไปเลยค่ะ ขออนุญาตไปหาที่พักอื่นดีกว่านะคะ - -"
ออกจากโรงแรมเพชรงามแล้วเราก็ลองขับรถวนหาที่พักใหม่กันไปเรื่อยๆ และสำรวจเส้นทางกันไปในตัว ในที่สุดเราก็มาลงตัวกันที่ imm hotel ตรงประตูท่าแพค่ะ ตอนแรกก็ตัดสินใจกันอยู่นานเลยว่าจะเข้าไปถามดูดีมั๊ย เพราะกลัวว่าราคาจะแพงค่ะ (แบบว่างบน้อยใช้สอยประหยัด แหะๆ) แต่พอเข้าไปถามดูแล้วก็ตัดสินใจจะพักที่นี่นี่แหละค่ะ 3 คืนรวด
imm hotel |
หลังจากเข้าที่พักเก็บของเรียบร้อยแล้ว (มีที่จอดรถด้านหลังโรงแรม สะดวกปลอดภัยดีค่ะ) ก๊วนเราก็ขอแวปออกมาหาอะไรใส่ท้องก่อนนอนที่ McDonald's ข้างๆโรงแรมกันนิดหน่อย จากนั้นก็สลบสไลกันไปตามระเบียบ Zzz...
วันที่สอง: ไนท์ซาฟารี
เช้าวันแรกของเชียงใหม่ หลังจากที่เราทานข้าวเช้าที่โรงแรมกันเรียบร้อยแล้วเราก็นั่งสัมมนากันจนเย็นเลยค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงว่าเราจะไม่ได้ไปไหน เพราะเราเตรียมโปรแกรมสำหรับลัดเลาะเมืองเชียงใหม่ยามค่ำคืนกันไว้แล้ว อิอิ
สัมมนาเสร็จประมาณบ่ายสี่โมงกว่าๆ กลับที่พักเตรียมตัวเที่ยวคืนนี้กันค่ะ คืนแรกที่...เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีนั่นเองงง ออกเดินทางไปกันเลย ^^
เชียงใหม่ Night Safari |
เริ่มเดินทางออกจากตัวเมืองประมาณ 17.00 น. กำลังดีค่ะ ขับรถไปทางงานพืชสวนโลกได้เลย ถนนดี ทางสะดวก เมื่อไปถึงแล้วฟ้ายังไม่มืดมาก เหมาะกับการเดินเล่นสบายๆในสวน ต่อด้วยนั่งรถชมสัตว์ตอนกลางคืน และชมการแสดงแสงสีอลังการริมสระน้ำ
21.00 น. การแสดงชุดสุดท้ายจบก็พอดีค่ะ จุใจกันแล้วก็ออกเดินทางกลับที่พักกันดีกว่า ขากลับขับรถชิวๆไม่ต้องรีบร้อนค่ะ แถมเปิดหน้าต่างรับอากาศเย็นๆได้อีกด้วย(ถึงจะแอบเหม็นควันบ้างก็เถอะ) กลับถึงที่พัก ก๊วนแมวขอตัวไปพักเอาแรงไปสัมมนาพรุ่งนี้กันต่อก่อนนะค้า
21.00 น. การแสดงชุดสุดท้ายจบก็พอดีค่ะ จุใจกันแล้วก็ออกเดินทางกลับที่พักกันดีกว่า ขากลับขับรถชิวๆไม่ต้องรีบร้อนค่ะ แถมเปิดหน้าต่างรับอากาศเย็นๆได้อีกด้วย(ถึงจะแอบเหม็นควันบ้างก็เถอะ) กลับถึงที่พัก ก๊วนแมวขอตัวไปพักเอาแรงไปสัมมนาพรุ่งนี้กันต่อก่อนนะค้า
วันที่สาม: เฮือนสุนทรี+มองบลังค์
เช้านี้เริ่มต้นด้วยอาหารเช้าของโรงแรมและไปสัมมนากันจนเย็นเหมือนเคย.. ซึ่งวันนี้ก๊วนเราตั้งใจจะไปตระเวนกินอาหารพื้นเมืองของที่นี่กันค่ะ
เลิกสัมมนาประมาณบ่ายสี่โมง พิกัดแรกของเราคือ ข้าวซอยฟ้าฮ่าม.. (หลังจากสอบถามเจ้าถิ่นและหาข้อมูลในเน็ตกันมาพอสมควรว่าร้านนี้เด็ดแท้ๆ อร่อยต้องลอง) เราก็ขับตามพี่ Google Map ไปอีกเช่นเคย แต่วันนี้พี่เกิ้ลเราหลงกันอย่างเมามันส์ค่ะ เจอทางตันบ้าง วันเวย์บ้าง ปรากฏว่ากว่าจะไปถึง.. ร้านปิดค่ะ T^T อดกิน
แต่ไม่เป็นไรค่ะ!! กองทัพต้องเดินด้วยท้อง มุ่งหน้าไปเป้าหมายต่อไปที่ร้าน "เฮือนสุนทรี" ร้านอาหารเมืองชื่อดังของคุณสุนทรี เวชชานนท์
เฮือนสุนทรี |
ไหนจะหลงทางจากร้านแรก แถมกว่าจะหาร้านใหม่เจอก็ปาเข้าไปเกือบมืดค่ำ ก๊วนแมวก็หิวไส้กิ่วไปตามๆกัน พอไปถึงที่ร้านเลยจัดหนัก กินอาหารเหนือแท้ๆ ท่ามกลางบรรยากาศล้านนากลางสวน ริมแม่น้ำปิง สุนทรีอิ่มแปล้ไปเลยค่ะ
แหมม.. จัดของคาวกันไปแล้ว ก็ต้องปิดด้วยของหวานจริงมั๊ยคะ งานนี้ก๊วนแมวต้องขอกลับเข้าไปลุยในเมืองมุ่งสู่ถนนนิมมานต์เหมินทร์ ถนนชื่อดังของชาวเชียงใหม่กันแล้วค่ะ หลายคนคงเดาได้ไม่ยากว่าเราจะไปร้านไหนกัน ปิ๊งป่อง!! ใช่แล้วค่ะ ร้านมองบลังค์ ร้านเค้กชื่อดังของที่นี่เค้าล่ะ
มองบลังค์ |
ไปถึงที่ร้าน เมนูแต่ละอย่างละลานตาบานตะไทมากถึงมากที่สุด เลือกกินแทบไม่ถูกเลยล่ะค่ะ สุดท้ายก็ต้องตัดใจเลือกมาลองกันคนละชิ้นสองชิ้น ก็อิ่มอร่อยฟินเวอร์กันไป เกือบๆสามทุ่มแล้วก็ได้เวลาต้องกลับที่พักแล้วค่ะ คืนนี้กว่าจะถึงที่พักก็ดึกอีกตามเคย ขอนอนก่อนนะค้า
วันที่สี่: B2Black
เช้าของวันที่สี่แล้วค่ะ เริ่มต้นด้วยอาหารเช้าของโรงแรมและสัมมนากันทั้งวัน... แต่วันนี้ก๊วนเราจะมีการเปลี่ยนแผนนิดหน่อยค่ะ เพราะเป็นวันสุดท้ายของการสัมมนา และตอนเย็นจะมีสมาชิกก๊วนมาสมทบเพื่อไปเที่ยวกันต่อค่ะ อิอิ เราเลยต้องเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมแต่เช้า พอสัมมนาเสร็จเราก็ออกไปรับสมาชิกที่สนามบินแล้วย้ายไปอีกโรงแรมนึงที่เราจองไว้ค่ะ
เสร็จสิ้นการสัมมนามาราธอน ไปรับสมาชิกแล้วย้ายที่พัก เข้าสู้ B2Black โรงแรมเท่ห์ๆกันเลยค่ะ โรงแรมจะอยู่เกือบนอกเมืองสักหน่อย แต่เหมาะกับการเตรียมไปเที่ยวนอกเมืองอย่างเราๆนะคะ เข้าที่พักพักผ่อนกันเรียบร้อยแล้ว พรุ่งนี้เช้าไปตระเวนเที่ยวบนดอยกับก๊วนแมวกันต่อนะค้า
บีทูแบล็ค |
B2Black |
ทริปเที่ยวเชียงใหม่ของเราผ่านไป 4 วันแล้วนะคะ เป็นยังไงกันบ้างเอ่ยจุใจกันรึยัง แต่ก๊วนเรายังอยากอยู่ตระเวนเที่ยวไปอีกนานๆเลย แต่กลัวเจ้านายเค้าจะไล่ออกก่อนนะคะ แหะๆ
วันที่ห้า: ม่อนม่วน+ม่อนแจ่ม+กฤษดาดอย
และแล้วก็มาถึงวันสุดท้ายของทริปนี้จนได้.. วันนี้ก๊วนเราจะออกนอกเมืองกันแล้วค่ะ ไปติดตามกันเลยว่าก๊วนแมวของเราจะไปเที่ยวไหน เย่.. \^^/
07.00 น. วันนี้ก๊วนเราต้องตื่นแต่เช้าค่ะ เพราะต้องเตรียมตัวไปเป็นแมวดอย เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมแล้วไปม่อนแจ่มกันค่า ขับรถออกจากโรงแรมมุ่งสู่ อ.แม่ริม ไม่นานก็ถึงที่หมายของเราค่ะ
ที่หมายแรกของเราก็คือ บ้านม่อนม่วน ค่ะ อยู่ก่อนถึงม่อนแจ่มเล็กน้อย แวะนั่งเล่น ชมวิว กินข้าวเช้ากันก่อนนะคะ ที่ร้านนี้เป็นทั้งโรงแรมและร้านอาหาร แถมมีกาแฟหอมอร่อยๆให้ลิ้มลองอีกด้วย นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ตั้งใจไปเที่ยวม่อนแจ่ม มักจะแวะที่นี่กันแทบทุกคนเลยล่ะค่ะ น่าสนใจแค่ไหน ต้องลองมาดูกันนะคะ
บ้านม่อนม่วน |
อิ่มอร่อยกับอาหารและบรรยากาศไปแล้ว ประมาณ 10.00 น. ก๊วนเราก็ไปลุยกันต่อที่ม่อนแจ่มเลยดีกว่า แดดกำลังแรงได้ที่เลย - -" เนื่องจากช่วงนี้เป็นหน้าร้อน แดดก็เลยแรงเปรี้ยงๆอยู่ตลอดเวลาค่ะ ต้นไม้ใบหญ้าก็เริ่มแห้งและโรยไปบ้าง แต่ก็ยังสวยงามน่าท่องเที่ยวไปอีกแบบ ยังดีนะคะที่มีลมพัดมาตลอด แถมเป็นลมเย็นๆด้วย ค่อยสบายหน่อยเนาะ ^^
ม่อนแจ่ม |
เดินเล่นถ่ายรูปกันประมาณชั่วโมงนึงก๊วนเราก็ออกเดินทางจากม่อนแจ่มกันค่ะ โดยก๊วนแมวเราตัดสินใจไม่ขับรถย้อนกลับไปทางเดิม เพราะมันสามารถลงกลับไปที่เมืองเชียงใหม่ได้อีกทางนึงด้วยค่ะ (เจ้าของร้านม่อนม่วนแอบบอกมา ^^) ก๊วนเราขาลุยก็เดินหน้ากันเล้ยย... ปรากฏว่าทางนี้คือทางขึ้นเขาค่ะ ขึ้นๆลงๆตลอดทาง ขับรถชมบรรยากาศ ชื่นชมธรรมชาติกันไปพักใหญ่ กว่าจะถึงจุดหมายต่อไปที่ "กฤษดาดอย" ก็บ่่ายโมงกว่าๆ เฮ้อ..เหนื่อยค่ะ เพลียแดด
วันนี้ก๊วนเราเลยได้กินข้าวเที่ยงช้ากันไปหน่อย แต่ก็ได้แวะกินข้าวกลางสวนสวย เติมพลัง ที่กฤษดาดอย รีสอร์ทสวยกลางหุบเขาที่เคยฮิตเป็นโลเคชั่นถ่ายละครหลายเรื่องในอดีตค่ะ
กฤษดาดอย |
กินข้าว ชมสวน เดินเล่น ถ่ายรูปกันจนเกือบบ่ายสาม แดดก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดความแรงลงเลยซะนี่ แต่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ก็หายเหนื่อยลงไปได้เยอะค่ะ พักผ่อนกันจนสบายใจแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้ว มุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯอีกเกือบ 700 กิโลเมตร สู้ๆค่า แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้านะคะ
ขอบคุณค่ะ
=ก๊วนแมว=
ความคิดเห็นและคะแนนในรีวิวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลของก๊วนแมวประชาชนคนธรรมดา ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารหรือการท่องเที่ยวใดๆ กรุณาอย่านำไปใช้ในการอ้างอิงใดๆนะคะ
ความคิดเห็นและคะแนนในรีวิวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลของก๊วนแมวประชาชนคนธรรมดา ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารหรือการท่องเที่ยวใดๆ กรุณาอย่านำไปใช้ในการอ้างอิงใดๆนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น