สวัสดีค่ะ
=^w^=
ทริปนี้ก๊วนแมวจะพาบินไปเที่ยวสิงคโปร์ค่ะ ประเทศที่สุดแสนจะเหมาะกับการเริ่มต้น backpack ตะลุยต่างประเทศด้วยตัวเองแบบไม่ต้องง้อทัวร์เป็นที่สุด =^w^=
ก่อนอื่นมาดูเหตุผลกันซะก่อนว่าทำไมใครๆ รวมถึงก๊วนเราถึงเริ่มบินกันที่ประเทศสิงคโปร์ เพราะอะไรน่ะหรอคะ?? ก็เพราะว่า...
- สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก เล็กกว่ากรุงเทพฯบ้านเราซะอีกนะ แต่การคมนาคมขนส่งดีมาก..ถึงมากที่สุด ครอบคลุมทั้งประเทศด้วยรถไฟใต้ดินและรสบัส ทำให้ไปเที่ยวไหนต่อไหนได้แบบง่ายดายสุดๆ
- สิงคโปร์อยู่ห่างจากบ้านเราแค่บิน 2 ชั่วโมงนิดๆเท่านั้น (เร็วกว่านั่งรถเมล์จากอนุสาวรย์ชัยฯไปบางกะปิซะอีก หึหึ) ทำให้สามารถไปเที่ยวได้ชิวๆ 2-3 วันก็ทั่วเกาะ แทบไม่ต้องเสียดายวันลาพักร้อนกันเลยนะ ^^ หรือใครที่โปรแล้วอยากจะไปเช้าเย็นกลับก็ไม่ยากเลย
- สิงคโปร์เป็นประเทศที่ขึ้นชื่อด้านความสะอาดและปลอดภัยสุดๆ ดังนั้นมือใหม่หัดบินนอกหลายๆคนก็สบายใจได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องโดนหลอก หรือโดนโกงค่ามิเตอร์(เหมือน Taxi บ้านไหนก็ไม่รู้ แหะๆ)
- สิงคโปร์เป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ทำให้ค่อนข้างง่ายต่อการสื่อสารทั้งกับคนและการอ่านป้ายต่างๆ แถมเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ดังนั้นต่อให้ภาษาอังกฤษของเราจะงูจะปลาแค่ไหนคนสิงคโปร์เค้าก็เข้าใจ และพร้อมจะสื่อสารกับนักท่องเที่ยวที่ภาษาอ่อนแออย่างเราๆ 55 (ปล.ภาษาซิงลิชของสิงคโปร์ คนสิงคโปร์เค้าก็บอกว่ามันก็คือภาษาอังกฤษแบบผสมตามใจฉันนั่นเอง ดังนั้นเลิกกังวลเรื่องแกรมม่าไปเลยค่ะ แค่พูดเป็นคำๆก็รู้เรื่อง!!)
- อากาศที่สิงคโปร์ก็คล้ายคลึงกับภาคใต้บ้านเรา คือมีแค่หน้าร้อนกับหน้าฝน แต่ด้วยภูมิประเทศที่เป็นเกาะ และการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมที่เจ๋งมาก ทำให้อากาศไม่ร้อนโหดเท่าบ้านเรานะ มีลมพัดมาเป็นระยะๆด้วย เสื้อผ้าที่มีในตู้ก็เอาใส่ไปเที่ยวได้เลย ไม่ต้องหาซื้อพร็อพใหม่ให้เสียกะตังค์
- ข้อสุดท้ายคือข้อที่สำคัญที่สุด ..อยากไปไงคะ!! จะออกไปแตะขอบฟ้า หาประสบการณ์ backpack เที่ยวด้วยตัวเองในเมืองที่ไม่มีคนรู้จัก ได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า สัมผัสกับวัฒนธรรมใหม่ๆ เปิดโลกกว้างให้กับตัวเอง!! แล้วจะรู้ว่ามันเจ๋งแค่ไหน ^^/
หาเหตุผลให้ตัวเองกันได้แล้ว.. ก็ได้เวลาเตรียมตัวกันแล้วค่ะ!! ไปเลยยย
1. การจองตั๋วเครื่องบิน
เส้นทางการบิน กทม-สิงคโปร์ เป็นเส้นทางที่มีสายการบินหลายเจ้าแย่งตลาดกันน่าดู ทำให้มีหลายเวลาให้เลือก ซึ่งเวลาที่เหมาะสมที่สุดก็คือ.. ออกจากไทยแต่เช้า และเลือกบินกลับเที่ยวเย็น เพื่อความคุ้มค่ากับการเดินทางค่ะ แต่ก๊วนเราเลือกไปเย็น กลับเย็น เพราะอะไรเดี๋ยวไปดูกัน อิอิ
สายการบินก็มีทั้งแบบ low cost และแบบจัดหนักจัดเต็ม สามารถเลือกได้ตามสะดวกสุขภาพตังค์ในกระเป๋าของแต่ละคน
เริ่มต้นด้วยสายการบินตัวแม่กันก่อนดีกว่า แม้ราคาจะสูงหน่อย แต่สะดวกสบายคุ้มค่าตามราคาที่เราจ่ายไปแน่นอน บินด้วยเครื่องลำใหญ่ เบาะกว้างพร้อมเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มแบบจัดเต็ม พ่วงด้วยน้ำหนักกระเป๋าสำหรับโหลดใต้เครื่องอีก 15-20 กิโลกรัม ก็ว่ากันไป
- Thai Airway
- Singapore Airline
- Cathay Pacific
ตามมาด้วยสายการบินราคาประหยัด ที่มีข้อแม้เรื่องน้ำหนักกระเป๋าที่ต้องซื้อเพิ่ม เครื่องบินที่ลำเล็กกว่า ที่นั่งแคบกว่าและไม่มีอาหารเครื่องดื่มบริการบนเครื่อง แต่ถ้าดูกันดีๆ ก็อาจจะได้มากกว่าที่เราคิดนะคะ เพราะทุกสายการบินขยันกันออกโปรโมชั่นมาแข่งกันตลอดทั้งปี คอยจับตาหาจังหวะเหมาะๆแล้วรับรองจะคุ้มค่าสมการรอคอย
- Thai Air Asia
- Tiger Air
- Jetstar
- Nok Scoot
- Scoot Air
- Thai Lion Air
2. การจองและหาที่พัก
ด้วยพื้นที่ประเทศขนาดเล็กแถมเป็นเมืองเศรษฐกิจ รับประกันความแพงของที่ได้เลยค่ะ ที่พักที่นี่จึงมีราคาค่อนข้างสูง แต่ห้องพักค่อนข้างแคบ และอาจไม่มีหน้าต่าง มีทั้งโรงแรมและโฮสเทลกระจายอยู่ทั่วไป เลือกจองได้ตามความชอบของเราได้เลย
โดยก๊วนแมวแบ่งระดับที่พักออกเป็น 3 ประเภทกว้างๆ ดังนี้
- โรงแรม (Hotel) มีตั้งแต่ 2 ดาว ยัน 6 ดาว ราคาเริ่มต้นจากคืนละ 3-4 พัน ไปยันหลักหมื่น ข้อดีของโรงแรมก็คือมีความเป็นส่วนตัวในห้องของตัวเอง แต่ถ้าเลือกราคาประหยัดก็มักจะไม่รวมอาหารเช้าและไม่มีหน้าต่าง
ที่พักแนะนำ: Hotel 81 Chinatown
- โฮสเทล (Hostel) คือที่พักรวมคล้ายหอพักนักศึกษา มีห้องให้เลือกหลายขนาด ใช้ห้องน้ำและพื้นที่ส่วนกลางร่วมกัน แต่มักมีอาหารเช้าง่ายๆแบบ American breakfast ให้บริการตัวเอง ทำให้ประหยัดค่าอาหารไปได้อีกด้วย ราคาเริ่มต้นที่ 3-4 ร้อย ไปถึงหลักพันเท่านั้น แต่หากใครไปกันเป็นหมู่คณะ สามารถเลือกจองเหมาห้องก็ได้ห้องส่วนตัวมาแบบราคาสบายกระเป๋าไปเลย
ที่พักแนะนำ: The Plot Hostel
- อพาร์ทเม้น (Apartment) มีอพาร์ทเม้นให้เช่าแบบเหมาห้องและแชร์ห้องอยู่ทั่วไปในสิงคโปร์ ในราคาที่รับได้ ถ้าใครสนใจก็ลองดูใน www.airbnb.com ได้เลยค่ะ
- Chinatown ยอดฮิตที่สุด เป็นย่านชุมชนชาวจีน หาของกินง่ายมากและค่อนข้างถูกปากคนไทย นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของฝากราคาถูกอีกด้วย แต่โรงแรมจะราคาค่อนข้างสูง และมีโฮสเทลให้เลือกพักหลากหลาย
- Galang แหล่งโรงแรมราคาประหยัด สามารถพักที่พักระดับโรงแรมในราคาเทียบเท่าโฮสเทลใน ย่านอื่นๆ แม้จะเป็นแหล่งโคมเขียวแต่คนที่เคยไปพักมาก็การันตีว่าสะอาด ปลอดภัยแน่นอน
- Orchard เป็นย่านแหล่ง shopping หรูใจกลางเมือง เต็มไปด้วยห้างใหญ่ตลอดแนวถนน ที่พักโรงแรมหรูราคาแพง แต่มีให้เลือกหลากหลาย
- Lavender
- Little india
- Bugis
- www.booking.com
- www.agoda.com
- www.hotels.com
- www.hostelworld.com
- www.expedia.com
- www.airasiago.com
- www.traveloka.com
ถูกใจราคาเจ้าไหนก็เลือกได้อย่างอิสระ แถมให้ดูดีๆเพราะในแต่ละช่วงเวลา แต่ละเจ้าเค้าก็จะปล่อยโปรโมชั่นเด็ดๆมาเป็นส่วนลดให้เราเป็นระยะๆอีกด้วย
3. การเดินทาง
แสนสะดวกและง่ายดาย ก๊วนแมวแนะนำให้ซื้อบัตร EZ-link ไปเลยนะคะ ใช้ได้ทั้งขึ้นรถไฟฟ้า รถเมล์ และซื้อของใน 7-eleven ที่สำคัญค่ารถยังถูกกว่าการซื้อตั๋วแยกขาและการใช้เงินสดอีกด้วยล่ะค่ะ
การซื้อบัตร EZ-link สามารถซื้อได้ที่สถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี โดยการซื้อครั้งแรกจะต้องจ่ายในราคา 12SGD แบ่งเป็น ค่าธรรมเนียมบัตร(ไม่ได้คืน) 5SGD และมูลค่าเงินในบัตรที่ใช้ได้อีก 7SGD ซึ่งในการใช้บัตรจะต้องมีเงินคงเหลือในบัตรอย่างน้อย 3SGD นะคะ เราสามารถเติมเงินลงในบัตรได้โดยกำหนดขั้นต่ำครั้งละ 10SGD ซึ่งจากประสบการณ์ของก๊วนเราที่ใช้เดินทางตลอด 3 วัน ใช้ไปประมาณ 20-25SGD ต่อคนค่ะ ดังนั้นเพื่อความประหยัดเราก็ควรเติมเงินเพิ่มตั้งแต่ครั้งแรกอีกประมาณ 15 - 17SGD ค่ะ
- รถไฟฟ้า มีระบบเหมือน MRT บ้านเราเลยแหละ ใช้บัตรแปะเข้าออกตรงทางเข้าและทางออก แบ่งออกเป็นสายสีต่างๆทั้งหมด 5 สาย ครอบคลุมทั้งประเทศ และมีแพลนที่จะขยายสายอื่นๆตามมาในอนาคตอีกด้วยค่ะ
- รถเมล์ ใช้ได้ทั้งบัตร EZ-link และเงินสด แต่เครื่องรับเงินจะไม่ทอนเงินนะคะ ต้องเตรียมให้พอดีเป๊ะๆ ดังนั้นก๊วนแมวแนะนำให้ใช้บัตรดีกว่าค่ะ โดยวิธีขึ้นให้ขึ้นรถที่ประตูหน้าและลงที่ประตูหลังเท่านั้นนะคะ จะมีเครื่องแปะบัตรติดไว้ที่หน้าประตูเลย สภาพรถสะอาดปลอดภัย ไม่ซิ่งแรงแซงโค้ง(อาจมีบ้างตอนที่ถนนโล่งๆ) จอดตามป้ายและค่อนข้างตรงเวลา แถมป้ายรถเมล์ยังดูง่ายและบอกเส้นทางอย่างละเอียดด้วยค่า ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วก๊วนแมวชอบขึ้นรถเมล์ที่สิงคโปร์มากกว่ารถไฟฟ้าเพราะใช้เวลาเดินทางไม่ต่างกันมาก เส้นทางไม่อ้อม ไม่ต้องเดินไกล และยังสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์บ้านเมืองได้อีกด้วย ^^
4. เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย
สามารถงัดชุดใส่สบายๆในตู้เสื้อผ้าเรามาใช้ได้เลย เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าสิงคโปร์อากาศร้อนคล้ายๆบ้านเรานี่แหละ แต่แนะนำว่ารองเท้าควรเลือกคู่ที่ใส่แล้วสบายสุดๆ จะใส่แตะหรือผ้าใบไปเลยก็ดี เพราะไปสิงคโปร์นี่ส่วนใหญ่ชีวิตคือการเดินและเดินค่ะ ถ้ารองเท้ากัดจะพลอยเที่ยวไม่สนุกเอานะคะ
5. อาหารการกิน
ต้องบอกไว้ก่อนว่ารสชาติอาหารที่นั่นค่อนข้างจะจืด แต่มีหลากหลายตามวัฒนธรรมของเค้าเลย ราคาก็ค่อนข้างสูงตามค่าครองชีพของสิงคโปร์ โดยอาหารที่น่าจะถูกปากคนไทยก็คืออาหารจีน ส่วนเมนูที่ไม่อยากให้พลาดเลยก็คือ ปูผัดพริก(chili crab) และอาหารประจำชาติสิงคโปร์ที่เรียกว่า laksa นั่นเอง
เอาล่ะ!! พอมีข้อมูลกันบ้างแล้ว.. เราก็ไปตะลุยสิงคโปร์กันเลยค่า
Link ที่เกี่ยวข้อง...
Link ที่เกี่ยวข้อง...
Review: เที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเองฉบับก๊วนแมว - Day 3 Universal Studio
โปรแกรมเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง รายละเอียดครบ เที่ยวได้ไม่ง้อทัวร์ ^^
โปรแกรมเที่ยวสิงคโปร์ด้วยตัวเอง รายละเอียดครบ เที่ยวได้ไม่ง้อทัวร์ ^^
ขอบคุณค่ะ
=ก๊วนแมว=
ความคิดเห็นและคะแนนในรีวิวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคลของก๊วนแมวประชาชนคนธรรมดา ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารหรือการท่องเที่ยวใดๆ กรุณาอย่านำไปใช้ในการอ้างอิงใดๆนะคะ